บทที่9การประยุกต์เทคโนโลยีเพื่อชีวิต
การประยุกต์เทคโนโลยีสารสนเทศกับการศึกษา
1. e-learning
e-Learning ย่อมาจากคำว่า electronic(s)
Learning เป็นการเรียนรู้ทางอิเล็กทรอนิกส์
ซึ่งรวมถึงการเรียนรู้ทางคอมพิวเตอร์หรือการเรียนโดยใช้คอมพิวเตอร์
รูปแบบของการเรียนรู้ทางอิเล็กทรอนิกส์ ส่วนมากจะเป็นการเรียนแบบออนไลน์
การเรียนรู้ทางอิเล็กทรอนิกส์แบบผสมผสาน (A hybrid e-Learning
model) ประกอบด้วย โปรแกรมประยุกต์ส่วนต่างๆ ดังนี้
1) e-leaning
map การเรียนโดยการออกแบบแผนที่การเรียนเฉพาะบุคคลซึ่งใช้ข้อมูลจากการทดสอบเบื้องต้น
2)
on-line e-learning มี 2 ตัวเลือก คือ
การถ่ายทอดสด กับ การถ่ายข้อมูลลงแบบออนไลน์
3)
e- learning group ทรัพยากรในชุมชนการเรียนรู้
แลกเปลี่ยนกันได้โดยใช้เครื่องแม่ข่ายของกลุ่มข่าว
เป็นการสื่อสารระหว่างผู้สอนกับรู้เรียนในการปฏิสัมพันธ์หรือแลกเปลี่ยนข่าวสารได้ทั้งภาพและเสียง
4)
e-comprehension กระบวนการเรียนรู้ผ่านการสร้างสถานการณ์ กรณีศึกษา
โดยใช้ข้อความหลายมิติ เว็บไซต์ มัลติมีเดีย คำถาม และอื่นๆ
5)
e-illustration การใช้ภาพประกอบ แผนภาพ และมัลติมีเดีย
เพื่อเป็นการยกตัวอย่างประกอบการอธิบายให้ชัดเจน
6)
e-workgroup แบ่งผู้เรียนออกเป็นกลุ่มต่างๆ และจัดกิจกรรมทั้งภายในและระหว่างกลุ่มเพื่อให้ได้ผลการเรียนรู้ร่วมกัน
2. มัลติมีเดียเพื่อการเรียนรู้
หมายถึง
การใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ถ่ายทอดหรือนำเสนอเนื้อหาและกิจกรรมการเรียนการสอน
ที่บูรณาการหรือผสมผสานสื่อหลากหลายรูปแบบ (Multiple forms) เข้าไว้ด้วยกัน
หลักการออกแบบเนื้อหา
ประกอบด้วย 3 ส่วน ได้แก่
1) การเตรียมเนื้อหา ประกอบด้วย
การวางโครงสร้างของเนื้อหา การคัดเลือกเนื้อหาที่จะนำเสนอ
การเรียงลำดับหัวข้อเนื้อหา และการใช้ภาษาให้เหมาะสม
2) การออกแบบเนื้อหาประเภทต่างๆ
ประกอบด้วย การสร้างเนื้อหาด้านความรู้ ความจำ ความเข้าใจ
การสร้างเนื้อหาด้านทักษะและการปฏิบัติ การสร้างเนื้อหาด้านทัศนคติ
3) การออกแบบข้อคำถามสำหรับการประเมิน ประกอบด้วย
การสร้างแบบทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน การสร้างแบบฝึกหัด
การสร้างคำถามที่ใช้ในบทเรียน
หลักการออกแบบการเรียนการสอน
นำเสนอตามขั้นตอนกระบวนการเรียนการสอนได้ 9 ขั้น ดังนี้
1) การกระตุ้นหรือเร้าความสนใจให้พร้อมในการเรียน
2) การแจ้งวัตถุประสงค์ของการเรียน
3) การทบทวนและกระตุ้นให้ระลึกถึงความรู้เดิม
4) การนำเสนอสิ่งเร้าหรือเนื้อหาและความรู้ใหม่
5) การแนะแนวทางการเรียนรู้
6) การกระตุ้นการตอบสนองหรือแสดงความสามารถ
7) การให้ข้อมูลป้อนกลับ
8) การทดสอบความรู้หรือการประเมินผลการแสดงออก
9) การส่งเสริมความจำหรือความคงทน
และการนำไปใช้หรือการถ่ายโอนการเรียนรู้
3. Vitual Classroom
ผู้เรียนกับผู้สอนไม่ได้ร่วมกันในสถานที่เดียวกัน
โดยมีคุณลักษณะคือ
การสนับสนุนการประเมินผลและการเข้าร่วมในการสื่อสารด้วยเครื่องมือต่างๆทั้งปฏิทินออนไลน์ โปรแกรมค้นหา และคำแนะนำออนไลน์
4. Mobile Technology
สามารถรองรับทั้งการรับ-ส่งข้อมูลด้วยเสียงและข้อความ
โดยกำจัดด้านความสามารถของการส่งเนื้อหาที่เป็นวิดีโอได้โดยเฉพาะการเข้าถึงอุปกรณ์อื่นๆ
ที่สามารถนำมาเชื่อมต่อได้ทั้งเทคโนโลยีภาพเคลื่อนไหว เสียงภาพลักษณ์ต่างๆ
สามารถแปลงเข้าสู่อุปกรณ์โทรศัพท์เคลื่อนที่ได้ การเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ภายนอก
โทรศัพท์เคลื่อนที่สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์แสดงผลต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์แสดงภาพ
อุปกรณ์เสียง เครื่องพิมพ์ ถ่ายโอนข้อมูลไปยังเครื่องคอมพิวเตอร์
เชื่อมต่อไมโครโฟนในการส่งข้อมูลเสียง
การประยุกต์เทคโนโลยีสารสนเทศกับสังคม
1. การประยุกต์เทคโนโลยีสารสนเทศกับงานสาธารณสุข
1) ระบบบริหารจัดการและการเงิน เพื่ออำนวยความสะดวกในการจัดการเอกสาร
2) ระบบคลินิก เพื่ออำนวยความสะดวกในการนำเข้าข้อมูลตลอดจนกระบวนการรักษาพยาบาล
3) โครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ
ในการสนับสนุนทั้งงานบริหารจัดการและงานคลินิก
2. การประยุกต์เทคโนโลยีสารสนเทศกับศาสนา
ศิลปวัฒนธรรม
2.1 กระทรวงวัฒนธรรม
ยุทธศาสตร์ที่ 1 ผลักดันให้ระบบศูนย์ข้อมูลกระทรวงวัฒนธรรมเพื่อเป็นศูนย์ข้อมูลกลางองค์ความรู้ด้านศาสนา
ศิลปะ และวัฒนธรรมของชาติ
ยุทธศาสตร์ที่
2 สร้าง สะสม และ
จัดให้มีทรัพยากรเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการจัดทำข้อมูลในรูปแบบ national
digital archives
ยุทธศาสตร์ที่
3 สร้างกลไกในการพัฒนาระบบจัดเก็บทะเบียนข้อมูลสำคัญด้านศิลปวัฒนธรรมและข้อมูลเชิงลึกทางวิชาการด้านศิลปวัฒนธรรมอย่างเหมาะสม
พอเพียง ต่อเนื่องและเป็นระบบ
2.2 พระไตรีปิฎกภาษาบาลี
ฉบับคอมพิวเตอร์
3. การประยุกต์เทคโนโลยีสารสนเทศกับสิ่งแวดล้อม ได้แก่
1) ข้อมูลประชาสัมพันธ์ของกระทรวงฯ
2) ศูนย์ข้อมูลและองค์ความรู้ทรัพยากรน้ำของกรมทรัพยากรน้ำ
3) สารานุกรมสัตว์
เป็นบริการขององค์การสวนสัตว์
4) บริการสืบค้นพันธุ์ไม้
เป็นระบบสืบค้นข้อมูลพันธุ์ไม้ ขององค์การสวนพฤกษศาสตร์
5) ฐานข้อมูลด้านกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงฯ
6) แผนแม่บทโครงการจัดทำแผนแม่บทเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารของกระทรวงฯ
พ.ศ. 2555 – 2559 และแผนบริหารจัดการเทคโนโลยีสารสนเทศ
รวมทั้งข้อมูลโครงสร้างสารสนเทศของกระทรวงฯด้วย
4. การประยุกต์เทคโนโลยีสารสนเทศกับงานบริการสังคม
1) ระบบการจัดหางานของบัณฑิต
2) ระบบแจ้งเบาะแสผู้ประสบภัยทางสังคม
3) ระบบจัดหางานสำหรับผู้สมัครงานและผู้ว่าจ้าง
4) ระบบบริการแจ้งเหตุสาธารณภัยเพื่อประชาชน
5) ระบบบริการข้อมูลและประวัติการประกันสังคม
6) ระบบบริการตรวจสอบสิทธิประกันสุขภาพผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์
7) ระบบบริการสารสนเทศภูมิศาสตร์เพื่อส่งเสริมการให้และการอาสาช่วยเหลือสังคมอย่างบูรณาการ
8) ระบบแจ้งเบาะแสเพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน
9) ข้อมูลสิทธิประโยชน์ที่ประชาชนพึงได้รับจากภาครัฐ
10) ข้อมูลสวัสดิการสังคมของไทย
11) ฐานข้อมูลกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
12) ระบบแจ้งข้อมูลการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์
การประยุกต์เทคโนโลยีสารสนเทศกับธุรกิจ
1. e-commerce
พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
หรือ electronic
commerce คือ การทำธุรกรรมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์เช่น การซื้อขายสินค้าและบริการ การโฆษณาผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์
ธุรกิจอิเล็กทรอนิกส์ หรือ electronic business หมายถึง
การแปลงกระบวนการหลักของธุรกิจให้สามารถดำเนินการโดยผ่านเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ต
2. e-marketing
e-marketing
ย่อมาจากคำว่า
electronic marketing หรือ การตลาดอิเล็กทรอนิกส์ หมายถึง
การดำเนินกิจกรรมทางการตลาดโดยใช้เครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ
ที่ทันสมัยและสะดวกต่อการใช้งาน เข้ามาเป็นสื่อกลาง
ขั้นตอนการดำเนินงาน
e-marketing ประกอบด้วยขั้นตอนต่างๆ ดังนี้
1) กำหนดวัตถุประสงค์
2) การกำหนดกลุ่มเป้าหมาย
3) วางแผนงบประมาณ
4) กำหนดแนวความคิดและรูปแบบ
5) การวางแผนกลยุทธ์ สื่อ และช่วงเวลา
6) ดำเนินการตามแผนงานที่วางไว้
7) การวัดผลและประเมินผลลัพธ์
3. M-commerce
M-commerce หรือ Mobile Commerce หมายถึง
กิจกรรมเชิงพาณิชย์ การบริการข่าวสาร การโฆษณาประชาสัมพันธ์ รวมทั้งธุรกรรมการเงินที่ดำเนินการผ่านอุปกรณ์และเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่
Mobile
Marketing หรือ การตลาดด้วยโทรศัพท์เคลื่อนที่
จัดเป็นกลยุทธ์ด้านการตลาดแนวใหม่ที่นำเทคโนโลยีโทรศัพท์เคลื่อนที่มาเป็นสื่อกลางในการสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายได้อย่างใกล้ชิด
การประยุกต์เทคโนโลยีสารสนเทศกับภาครัฐ
1. รัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (e-government)
หมายถึง
วิธีการบริหารจัดการภาครัฐสมัยใหม่ที่เน้นการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของผลงานของภาครัฐและปรับปรุงการให้บริการแก่ประชาชน
และบริการด้านข้อมูลเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของผลงานของภาครัฐและปรับปรุงการให้บริการแก่ประชาชน
และบริการด้านข้อมูลเพื่อเพิ่มอัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจและทำให้ประชาชนมีส่วนร่วมกับรัฐมากขึ้น
โดยมุ่งเน้นไปที่กลุ่มคน 3 กลุ่ม ได้แก่ ประชาชน ภาคเอกชน และข้าราชการ
พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ (e-commerce) คือ การดำเนินการธุรกรรมทางพาณิชย์ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์
อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ (e-lndustry) หมายถึง
การสร้างความเข้มแข็งของภาคอุตสาหกรรมการผลิต
อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์
(e-education) หมายถึง
การส่งข้อมูลสื่อการศึกษาและการบริการผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์
ภาคสังคมอิเล็กทรอนิกส์
(e-society) หมายถึง
สังคมของมนุษย์ที่เกิดขึ้นโดยผ่าน “อิเล็กทรอนิกส์”
รูปแบบของรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์
1) Internal e-government เป็นระบบงานภายในของภาครัฐด้วยการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร
และสร้างห่วงโซ่มูลค่าขึ้นกับงานภายใน
2) Government to Citizen (G2C) เป็นการสร้างบริการที่สนับสนุนให้เกิดห่วงโซ่ของลูกค้าหรือประชาชน
3)
Government to Business (G2B) เป็นการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างภาครัฐกับภาคธุรกิจในการส่งเสริมห่วงโซ่อุปทาน
4) Government to Government (G2G) เป็นการทำงานร่วมกันของภาครัฐ
สร้างความร่วมมือเพื่อให้เกิดห่วงโซ่มูลค่าและสามารถแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างหน่วยงานได้
5) Citizen to Citizen (C2C) เป็นการส่งเสริมให้เกิดประชาธิปไตยและสร้างภาพอนาคตของการบริหารงานภาครัฐอย่างมีธรรมาภิบาล
ประโยชน์ของรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์
1) การพัฒนาการเข้าถึงข้อมูลและบริการที่ดีกว่าเดิมของประชาชน
2)
ปรับปรุงคุณภาพของการบริการ โดยสร้างความน่าเชื่อถือให้ดีกว่าเดิม
เพื่อความรวดเร็ว สร้างความโปร่งใสของการให้บริการ
3)
การจัดการกระบวนการที่ดีขึ้น
4)
มีระบบที่ดีขึ้น โดยมีเครื่องมือในการวิเคราะห์ การบริหารจัดการ
การประยุกต์เทคโนโลยีสารสนเทศกับงานบริการ
บริการต่างๆ ของมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต ได้แก่
1) บริการห้องสมุดเสมือน (virtual library)
2)
บริการวิชาการผ่านระบบ internet protocol television (IPTV) ที่เรียกว่า Suan
Dusit internet broadcasting – SDIB
3)
บริการด้านการเรียนรู้ทางอิเล็กทรอนิกส์
4) บริการฐานข้อมูลงานวิจัย
(e-Research) โดยสถาบันวิจัยและพัฒนา
5)
บริการระบบบริหารการศึกษาหรือระบบทะเบียนออนไลน์
ของสำนักส่งเสริมวิชาการและงานทะเบียน
6)
บริการข้อมูลการสำรวจประชามติ
เทคโนโลยีสารสนเทศกับการสร้างนวัตกรรม
นวัตกรรม คือ
กระบวนการในการสร้างความเปลี่ยนแปลงทั้งเล็กและใหญ่
เปลี่ยนแปลงโดยสิ้นเชิงหรือบางส่วน เปลี่ยนแปลงในตัวสินค้า กระบวนการ และบริการ
ซึ่งนำไปสู่การนำเสนอสิ่งใหม่สำหรับองค์กรในการเพิ่มมูลค่าแก่ลูกค้าและความรู้ขององค์กร
ประเภทของนวัตกรรม การเปลี่ยนแปลงองค์ประกอบ การเปลี่ยนแปลงระบบ
Incremental ปรับปรุงบางส่วน ไม่มีการเปลี่ยนแปลง
Modular เปลี่ยนใหม่ ไม่มีการเปลี่ยนแปลง
Architectural ปรับปรุงบางส่วน มีโครงสร้างหรือสถาปัตยกรรมใหม่
Radical เปลี่ยนใหม่ มีโครงสร้างหรือสถาปัตยกรรมใหม่
รูปแบบของนวัตกรรม
1) นวัตกรรมสินค้า เป็นการพัฒนาสินค้าที่เป็นสินค้าอุปโภค บริโภค รวมไปถึงสินค้าอุตสาหกรรม
2) นวัตกรรมบริการ เป็นการสร้างวิธีใหม่ในการให้บริการ
3)
นวัตกรรมกระบวนการ เป็นการเปลี่ยนแปลงวิธีการดำเนินงานซึ่งนำไปสู่รูปแบบใหม่ของกระบวนการทำงาน
ตัวอย่างของนวัตกรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ เช่น
คอมพิวเตอร์ อินเทอร์เน็ต ระบบโทรศัพท์เคลื่อนที่ หุ่นยนต์ พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
เครือข่ายสังคม คอมพิวเตอร์นาโน







ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น